JSCO Design

คู่มือราคาการออกแบบเว็บไซต์ของสิงคโปร์ ปี 2021

Web Design

คู่มือราคาการออกแบบเว็บไซต์ของสิงคโปร์ ปี 2021

มีคนสิงคโปร์มากกว่า 5 ล้านคนใช้อินเตอร์เน็ตในปี 2021 นี้  ไม่ว่าธุรกิจใดก็ตามที่ต้องการจะประสบความสำเร็จต่างต้องพึ่งพาเว็บไซต์กันทั้งนั้น แต่ว่ามันจะใช้เงินเท่าไหร่ในการสร้างเว็บไซต์สักหนึ่งเว็บไซต์กันล่ะ  ผมไม่สามารถบอกราคาที่ตายตัวได้หรอกนะครับ เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย

ถ้าคุณสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์แบบมืออาชีพสำหรับธุรกิจของคุณ บทความนี้จะช่วยคุณเอง เราจะมาพูดถึงปัจจัยที่กำหนดค่าใช้จ่ายในการสร้างเว็บไซต์และช่วงราคาของแต่ละประเภทเว็บไซต์

มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ!

การออกแบบเว็บไซต์ในสิงคโปร์  6 ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา

  1. ระบบจัดการเนื้อหา(CMS)/ เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่คุณเลือก

การตัดสินใจที่สำคัญอย่างหนึ่งที่คุณจะต้องเลือกก่อนที่จะเริ่มการสร้างเว็บไซต์หรือ แพลตฟอร์มระบบจัดการเนื้อหา ที่นักออกแบบเว็บไซต์ของคุณจะใช้เพื่อสร้างเว็บไซต์ บางระบบจัดการเนื้อหาเช่น WordPress มักจะฟรีแต่ว่าก็ต้องทำงานมากขึ้นในขณะออกแบบเว็บไซต์ มากกว่าการเลือกเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่เรียบง่ายเช่น Wix หรือ Squarespace

ราคาที่ใช้สร้างเว็บไซต์จาก WordPress จะต้องใช้งบราวๆ $500 ถึง $50,000 ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของเว็ปไซต์และประสบการของนักพัฒนาเว็บไซต์ที่คุณทำงานด้วย มันจะไม่เหมือนกับการต่ายเว็บไซต์สำหรับการสร้างเว็บ เช่น Wix และ Square Space WordPress สามารถปรับแต่งเว็บไซต์ได้หลากหลายและสร้างเอกลัษณ์ได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม คุณก็จะต้องจ่ายให้นักออกแบบเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นไปอีก

  1. จำนวนหน้าในเว็บไซต์ของคุณ

นักออกแบบเว็บไซต์และนักพัฒนาเว็บไซต์บางคนจะคิดค่าบริการตามจำนวนหน้าที่คุณต้องการบนเว็บไซต์ โดยปกติเว็บไซตธรรมดาทั่วไปจะมีประมาณ 10 ถึง 15  หน้า แต่ละหน้าจะตกประมาณหน้าละ $150 ราคานี้ก็จะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของนักพัฒนาเว็บที่คุณจ้างมา เว็บไซต์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้นสามารถมีได้หลายร้อยหน้า ดังนั้นยิ่งคุณมีหน้าเยอะเท่าไหร่ คุณก็จะต้องจ่ายมากขึ้นเท่านั้น

เราขอแนะนำให้เริ่มการเลือกหน้าที่จำเป็นและค่อยๆ เพิ่มหน้าไปเรื่อยๆ ถ้าคุณต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการสร้างเว็บไซต์ทั่วไปที่คอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ สัก 10 or 15 หน้าก็ถือว่าพอเพียงต่อการแสดงออกว่าบริษัทคุณทำอะไร

  1. ปริมาณและความซับซ้อนของเนื้อหา

การเพิ่มเนื้อหาไปในเว็บไซต์เป็นค่าใช้จ่ายหลักๆที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณสร้างเว็บไซต์ นักเขียนคำโฆษณาจะคิดว่าบริการประมาณ $20 to $100 สำหรับการเขียนทุกๆ 1000 สำหรับเนื้อหาในเว็บของคุณโดยปกติการคิดว่าบริการจะขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของนักเขียนคำโฆษณาและการที่จะต้องหาข้อมูลมาเขียนเนื้อหาให้กับเว็บไซต์ของคุณ การเพิ่ม อินโฟกราฟิกส์ ตารางและ ชาร์จข้อมูลก็จะเพิ่มค่าบริการไปอีก

ถ้าคุณต้องการลดค่าใช้จ่ายลง คุณก็สามารถให้ข้อมูลเนื้อหากับนักเขียนคำโฆษณาให้ได้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ คุณอาจจะสร้างเนื้อหาด้วยตัวเองถ้าคุณมีเวลาว่าง

  1. ค่าใช้จ่ายในการทำ SEO

วิธีการปรับแต่งเว็บไซต์ (SEO) เป็นอีกค่าใช้จ่ายหนึ่งที่คุณจะต้องจ่ายในระหว่างการสร้างเว็บไซต์ของคุณถ้าคุณอยากให้เว็บคุณติดอันดับการค้นหา. SEO จะเกี่ยวข้องกับการสร้างคอนเทนท์ด้วยคำหลักที่เกี่ยวข้อง คอยตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บทั้งหมดเป็นแบบ responsive และการมีคำบรรยายในเนื้อหา เป็นต้น ดังนั้น ในขณะที่คุณเจรจากับนักเขียนโฆษณาของคุณ คุณต้องแน่ใจว่าคุณพูดถึง SEO ด้วยและต้องถามว่าจะมีการเรียกเก็บเงินกี่บาทถ้าคุณใช้เนื้อหาทั้งหมดในการทำ SEO

ในตอนแรกมันง่ายมากที่จะไม่ต้องทำ SEO แต่ว่า อีกไม่นานมันจะกลับมาตามรังควาญคุณแน่นอนเพราะว่าแทบทุกเว็บไซต์จำเป็นต้องพึ่งเครื่องมือค้นหาเพื่อการเข้าชม SEO เป็นตัวกำหนดชะตากรรมของเว็บไซต์ ดังนั้นคุณต้องมั่นใจว่าคุณมีงบอย่างน้อย 500 ดอลลาร์เผื่อไว้สำหรับการทำ

  1. ประเภทและความซับซ้อนของเว็บไซต์

เว็บไซต์ข้อมูลทั่วไปจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเว็บไซต์ eCommerce ที่ซับซ้อน เว็บไซต์ที่มีความซับซ้อนมากจะต้องมีการติดตั้งแอพและ APIs เพิ่ม ซึ่งมันไม่จำเป็นเลยสำหรับเว็บไซต์ข้อมูลทั่วไป เว็บไซต์ข้อมูลพื้นฐาน (ประมาณ 10 หน้า) สามารถสร้างได้ด้วยงบประมาณ ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวจะไม่ต้องการทำ SEO มากนัก2000-3000 ดอลลาร์

ในทางกลับกัน WordPress หรือ Shopify เว็บไซต์ eCommerce สามารถมีราคาสูงถึง 50,000 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นที่คุณต้องการ คุณอาจจะต้องข่ายเพิ่มสำหรับบางฟีเจอร์ในเว็บของคุณที่ต้องเขียนโค้ดใหม่ตั้งแต่ต้น

  1. ธีมและเทมเพลตของเว็บไซต์ที่คุณเลือก

แพลตฟอร์มของ CMS และ แพลตฟอร์มการสร้างเว็บไซต์ มีธีมหรือเทมเพลตเป็นร้อยๆ แบบ ที่คุณสามารถเลือกใช้ในขณะที่คุณกำลังสร้างเว็บไซต์ได้ ราคาของธีมเหล่านี้จะแต่งต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและฟีเจอร์ที่คุณจะใส่ในเว็บไซต์ เทมเพลตเว็บไซต์แบบธรรมดาใน Wix หรือ WordPress มีราคาประมาณ 20-50 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน ธีมที่ซับซ้อนกว่าอาจมีราคามากกว่า 200 ดอลลาร์

ธีมที่คุณเลือกโดยหลักๆ ควรขึ้นอยู่กับฟีเจอร์ที่คุณอยากให้มีในเว็บไซต์ ธีมที่คุณเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการเว็บไซต์ประเภทไหน การเลือกธีมที่มีฟีเจอร์หลากหลายสามารถช่วยลดงานของนักออกแบบเว็บไซต์ต้องทำเพื่อให้เว็บของคุณดูเป็นมืออาชีพและน่าดึงดูด ธีมยังส่งผลต่อความปลอดภัยของเว็บไซต์ด้วย ดังนั้นคุณต้องเลือกธีมที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความปลอดภัยด้วย

ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มมากขึ้นถ้าคุณต้องการธีมที่ปรับแต่งเองได้ที่ต้องเริ่มทำใหม่หมด หากคุณพบว่าธีมส่วนใหญ่บนแพลตฟอร์ม CMS ของคุณไม่เหมาะกับประเภทเว็บไซต์ที่คุณต้องการ ตัวเลือกเดียวที่คุณมีคือ จะต้องสร้างใหม่ตั้งแต่ต้น ธีม WordPress แบบกำหนดเองทั่วไปมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,500 ถึง 5,000 ดอลลาร์ในการสร้าง ราคานี้ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและคุณสมบัติที่คุณต้องการให้ธีมมี

ตอนนี้คุณก็รู้แล้วนะครับว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อต้นทุนในการสร้าง ตอนนี้เรามาดูเว็บไซต์แต่ละประเภทและราคาที่คุณต้องจ่ายในการสร้างกันดีกว่าครับ

3 ประเภทหลักของเว็บไซต์และราคา

  1. ระบบจัดการเนื้อหา(CMS)/ เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่คุณเลือก

การตัดสินใจที่สำคัญอย่างหนึ่งที่คุณจะต้องเลือกก่อนที่จะเริ่มการสร้างเว็บไซต์หรือ แพลตฟอร์มระบบจัดการเนื้อหา ที่นักออกแบบเว็บไซต์ของคุณจะใช้เพื่อสร้างเว็บไซต์ บางระบบจัดการเนื้อหาเช่น WordPress มักจะฟรีแต่ว่าก็ต้องทำงานมากขึ้นในขณะออกแบบเว็บไซต์ มากกว่าการเลือกเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่เรียบง่ายเช่น Wix หรือ Squarespace

ราคาที่ใช้สร้างเว็บไซต์จาก WordPress จะต้องใช้งบราวๆ $500 ถึง $50,000 ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของเว็ปไซต์และประสบการของนักพัฒนาเว็บไซต์ที่คุณทำงานด้วย มันจะไม่เหมือนกับการต่ายเว็บไซต์สำหรับการสร้างเว็บ เช่น Wix และ Square Space WordPress สามารถปรับแต่งเว็บไซต์ได้หลากหลายและสร้างเอกลัษณ์ได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม คุณก็จะต้องจ่ายให้นักออกแบบเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นไปอีก

  1. จำนวนหน้าในเว็บไซต์ของคุณ

นักออกแบบเว็บไซต์และนักพัฒนาเว็บไซต์บางคนจะคิดค่าบริการตามจำนวนหน้าที่คุณต้องการบนเว็บไซต์ โดยปกติเว็บไซตธรรมดาทั่วไปจะมีประมาณ 10 ถึง 15  หน้า แต่ละหน้าจะตกประมาณหน้าละ $150 ราคานี้ก็จะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของนักพัฒนาเว็บที่คุณจ้างมา เว็บไซต์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้นสามารถมีได้หลายร้อยหน้า ดังนั้นยิ่งคุณมีหน้าเยอะเท่าไหร่ คุณก็จะต้องจ่ายมากขึ้นเท่านั้น

เราขอแนะนำให้เริ่มการเลือกหน้าที่จำเป็นและค่อยๆ เพิ่มหน้าไปเรื่อยๆ ถ้าคุณต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการสร้างเว็บไซต์ทั่วไปที่คอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ สัก 10 or 15 หน้าก็ถือว่าพอเพียงต่อการแสดงออกว่าบริษัทคุณทำอะไร

  1. ปริมาณและความซับซ้อนของเนื้อหา

การเพิ่มเนื้อหาไปในเว็บไซต์เป็นค่าใช้จ่ายหลักๆที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณสร้างเว็บไซต์ นักเขียนคำโฆษณาจะคิดว่าบริการประมาณ $20 to $100 สำหรับการเขียนทุกๆ 1000 สำหรับเนื้อหาในเว็บของคุณโดยปกติการคิดว่าบริการจะขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของนักเขียนคำโฆษณาและการที่จะต้องหาข้อมูลมาเขียนเนื้อหาให้กับเว็บไซต์ของคุณ การเพิ่ม อินโฟกราฟิกส์ ตารางและ ชาร์จข้อมูลก็จะเพิ่มค่าบริการไปอีก

ถ้าคุณต้องการลดค่าใช้จ่ายลง คุณก็สามารถให้ข้อมูลเนื้อหากับนักเขียนคำโฆษณาให้ได้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ คุณอาจจะสร้างเนื้อหาด้วยตัวเองถ้าคุณมีเวลาว่าง

  1. ค่าใช้จ่ายในการทำ SEO

วิธีการปรับแต่งเว็บไซต์ (SEO) เป็นอีกค่าใช้จ่ายหนึ่งที่คุณจะต้องจ่ายในระหว่างการสร้างเว็บไซต์ของคุณถ้าคุณอยากให้เว็บคุณติดอันดับการค้นหา. SEO จะเกี่ยวข้องกับการสร้างคอนเทนท์ด้วยคำหลักที่เกี่ยวข้อง คอยตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บทั้งหมดเป็นแบบ responsive และการมีคำบรรยายในเนื้อหา เป็นต้น ดังนั้น ในขณะที่คุณเจรจากับนักเขียนโฆษณาของคุณ คุณต้องแน่ใจว่าคุณพูดถึง SEO ด้วยและต้องถามว่าจะมีการเรียกเก็บเงินกี่บาทถ้าคุณใช้เนื้อหาทั้งหมดในการทำ SEO

ในตอนแรกมันง่ายมากที่จะไม่ต้องทำ SEO แต่ว่า อีกไม่นานมันจะกลับมาตามรังควาญคุณแน่นอนเพราะว่าแทบทุกเว็บไซต์จำเป็นต้องพึ่งเครื่องมือค้นหาเพื่อการเข้าชม SEO เป็นตัวกำหนดชะตากรรมของเว็บไซต์ ดังนั้นคุณต้องมั่นใจว่าคุณมีงบอย่างน้อย 500 ดอลลาร์เผื่อไว้สำหรับการทำ

  1. ประเภทและความซับซ้อนของเว็บไซต์

เว็บไซต์ข้อมูลทั่วไปจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเว็บไซต์ eCommerce ที่ซับซ้อน เว็บไซต์ที่มีความซับซ้อนมากจะต้องมีการติดตั้งแอพและ APIs เพิ่ม ซึ่งมันไม่จำเป็นเลยสำหรับเว็บไซต์ข้อมูลทั่วไป เว็บไซต์ข้อมูลพื้นฐาน (ประมาณ 10 หน้า) สามารถสร้างได้ด้วยงบประมาณ ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวจะไม่ต้องการทำ SEO มากนัก2000-3000 ดอลลาร์

ในทางกลับกัน WordPress หรือ Shopify เว็บไซต์ eCommerce สามารถมีราคาสูงถึง 50,000 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นที่คุณต้องการ คุณอาจจะต้องข่ายเพิ่มสำหรับบางฟีเจอร์ในเว็บของคุณที่ต้องเขียนโค้ดใหม่ตั้งแต่ต้น

  1. ธีมและเทมเพลตของเว็บไซต์ที่คุณเลือก

แพลตฟอร์มของ CMS และ แพลตฟอร์มการสร้างเว็บไซต์ มีธีมหรือเทมเพลตเป็นร้อยๆ แบบ ที่คุณสามารถเลือกใช้ในขณะที่คุณกำลังสร้างเว็บไซต์ได้ ราคาของธีมเหล่านี้จะแต่งต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและฟีเจอร์ที่คุณจะใส่ในเว็บไซต์ เทมเพลตเว็บไซต์แบบธรรมดาใน Wix หรือ WordPress มีราคาประมาณ 20-50 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน ธีมที่ซับซ้อนกว่าอาจมีราคามากกว่า 200 ดอลลาร์

ธีมที่คุณเลือกโดยหลักๆ ควรขึ้นอยู่กับฟีเจอร์ที่คุณอยากให้มีในเว็บไซต์ ธีมที่คุณเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการเว็บไซต์ประเภทไหน การเลือกธีมที่มีฟีเจอร์หลากหลายสามารถช่วยลดงานของนักออกแบบเว็บไซต์ต้องทำเพื่อให้เว็บของคุณดูเป็นมืออาชีพและน่าดึงดูด ธีมยังส่งผลต่อความปลอดภัยของเว็บไซต์ด้วย ดังนั้นคุณต้องเลือกธีมที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความปลอดภัยด้วย

ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มมากขึ้นถ้าคุณต้องการธีมที่ปรับแต่งเองได้ที่ต้องเริ่มทำใหม่หมด หากคุณพบว่าธีมส่วนใหญ่บนแพลตฟอร์ม CMS ของคุณไม่เหมาะกับประเภทเว็บไซต์ที่คุณต้องการ ตัวเลือกเดียวที่คุณมีคือ จะต้องสร้างใหม่ตั้งแต่ต้น ธีม WordPress แบบกำหนดเองทั่วไปมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,500 ถึง 5,000 ดอลลาร์ในการสร้าง ราคานี้ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและคุณสมบัติที่คุณต้องการให้ธีมมี

ตอนนี้คุณก็รู้แล้วนะครับว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อต้นทุนในการสร้าง ตอนนี้เรามาดูเว็บไซต์แต่ละประเภทและราคาที่คุณต้องจ่ายในการสร้างกันดีกว่าครับ

3 ประเภทหลักของเว็บไซต์และราคา

  1. บล็อกทั่วๆไป หรือ เว็บข้อมูลทั่วไป

โดยปกติเว็บไซต์ประเภทนี้จะมีประมาณ 5 ถึง 15 หน้า และไม่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มฟังก์ชั่นอะไรมากมาย แต่อย่างไรก็ตามมีหน้าเพจที่สำคัญที่จะต้องเพิ่มไปในเว็บไซต์ให้ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น ได้แก่

  • หน้าติดต่อเรา: หน้านี้คุณจะใส่ข้อมูลการติดต่อของคุณเช่น เบอร์และอีเมล์
  • เกี่ยวกับเรา: หน้านี้คุณจะต้องพูดเกี่ยวพื้นหลังของบริษัท การบริการที่คุณมีและคุณค่าที่คุณยึดมั่น
  • โฮมเพจ: แน่นอนว่าทุกๆ เว็บไซต์จะต้องมีโฮมเพจ  และมันคือหน้าที่คุณจะใส่สิ่งที่น่าดึงดูดและสรุปเนื้อหาทั่วไปของผลิตภัณฑ์ของคุณและข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณ
  • บล็อก: ถ้าคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณทำงานได้ดีในเครื่องมือการค้นหา คุณจะต้องเพิ่มส่วนบล็อกเข้าไปด้วย 

คุณสามารถเพิ่มหน้าอื่นๆ ได้นอกเหนือจากที่กล่าวมาก ขึ้นอยู่กับจำนวนข้อมูลที่คุณต้องการใส่ลงไปในเว็บไซต์

ราคาการสร้างเว็บไซต์ประเภทนี้ในสิงคโปร์ จะมีราคาราวๆ 1000 ถึง 5000 ดอลลาร์ ความหลากหลายของราคาจะขึ้นอยู่กับคนที่คุณเลือกที่จะมาสร้างเว็บให้คุณ หาคุณตัดเลือกฟรีแลนซ์หรือนักเรียนด้านไอที คุณจะสามารถสร้างเว็บไซต์ด้วยงบเพียง 1000 ดอลลาร์และบางครั้งก็น้อยกว่านั้นได้

ในทางกลับกัน บริษัทมืออาชีพสามารถคิดราคาคุณสูงถึง 5000 ดอลลาร์สำหรับเว็บไซต์ข้อมูลพื้นฐานทั่วๆ ไป คุณภาพที่คุณจะได้รับจากบริษัททำเว็บไซต์มืออาชีพจะแตกต่างจากของฟรีแลนซ์ออนไลน์หรือนักศึกษา อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นไปได้ที่คุณจะได้ฟรีแลนซ์ที่มีทักษะที่สามารถทำงานได้มาตราฐานเหมือนบริษัททำเว็บไซต์มืออาชีพ

  1. เว็บไซต์eCommerce/ร้านค้าออนไลน์

การสร้างเว็บไซต์ eCommerce จะมีความซับซ้อนกว่าเว็บไซต์ข้อมูลทั่วไปอยู่มาก เว็บไซต์ eCommerce ทั่วไป สามารถมี 20 ถึง 50 หน้า ดังนั้นราคาที่คุณจะต้องจ่ายก็ขึ้นอยู่กับจำนวนหน้าที่คุณต้องการ หน้าสำคัญที่เว็บไซต์ eCommerce ควรมีดังนี้

  • โฮมเพจ: หน้านี้จะต้องมีผลิตภัณฑ์และข้อเสนอหลักทั้งหมดของคุณที่มีอยู่
  • หน้ารายการสินค้า: คุณสามารถเลือกรายการสินค้าตามหมวดหมู่ ดังนั้นแต่ละหมวดหมู่สามารถมีหน้าของแต่ละหมวด
  • หน้ารายละเอียดสินค้า: นอกจากหน้ารายการสินค้าแล้ว แต่ละผลิตภัณฑ์ควรมีหน้าอธิบายคุณสมบัติของสินค้าและรายการอื่นๆ เช่น ราคาและการจัดส่ง 
  • หน้าชำระเงิน: นี่คือหน้าแบบไดนามิกที่จะปรากฎขึ้นทุกครั้งที่ลูกค้าจะตรวจสอบผลิตภัณฑ์เฉพาะในแคตตาล็อก
  • หน้าแคตตาล็อก: หน้านี้จะอนุญาตให้ลูกค้าเพิ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่อยากซื้อก่อนจะชำระเงิน
  • บล็อก: คุณสามารถเลือกเพิ่มบล็อกสำหรับเว็บไซต์ eCommerce ถ้าการทำ SEO เป็นหนึ่งในแผนกลยุทธ์การตลาดของคุณ การมีบล็อกในเว็บไซต์ของคุณก็มีความจำเป็นมาก

ค่าใช้จ่ายโดยทั่วๆ ไปในการสร้างเว็บไซต์ eCommerce ที่สิงคโปร์จะประมาณ 1500 ไปจนถึง 10,000ดอลลาร์ จำนวนเงินที่คุณจ่ายไปขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของเว็บไซต์ของคุณ ราคายังมีความแตกต่างขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกใครสร้างเว็บไซต์ บริษัททำเว็บไซต์มืออาชีพโดยปกติจะมีค่าบริการที่แพงกว่าฟรีแลนซ์และนักศึกษา  

  1. เว็บไซต์แบบฟอรัม/ เว็บไซต์ชุมชน

ถ้าคุณต้องการสร้างเว็บไซต์ที่ผู้คนสามารถสมัครและเข้าไปถกเถียงกันเหมือนในสื่อโชเชียลมีเดียว ถ้าอย่างนั้นคุณจะต้องจ่ายเงินมากขึ้นกว่าคนที่ต้องการเว็บไซต์ข้อมูลทั่วไป เว็บไซต์พวกนนี้โดยปกติจะมีฟังก์ชั่นที่ซับซ้อน ซึ่งสามารถรองรับการสร้างบัญชี ติดตามหัวข้อเฉพาะ และอื่นๆ

ตัวอย่างฟีเจอร์ที่มีลักษณะสำคัญในเว็บไซต์ประเภทนี้

  • ฟีเจอร์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสร้างบัญชีผู้ใช้ได้
  • มีตัวเลือกสำหรับการสร้างเนื้อหาและอัพโหลดรูปภาพและวิดิโอ
  • อนุญาตให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมในการแบ่งปันเนื้อหาให้กับเพื่อนในแพลตฟอร์มอื่นๆ 

เว็บไซต์ประเภทนี้จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 10,000 ถึง 50,000 ดอลลาร์  สำหรับเว็บไซต์แบบนี้ เราขอแนะนำให้ใช้นักพัฒนาเว็บไซต์แบบมืออาชีพที่มีประสบการณ์การทำเว็บไซต์แบบนี้มาก่อน

วิธีหานักพัฒนาเว็บไซต์ที่ใช่สำหรับคุณ

ตอนนี้คุณก็พอรู้คร่าวๆ แล้วว่าคุณจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ในการสร้างเว็บไซต์ ขั้นตอนต่อไปคือการหานักทำเว็บไซต์ที่เหมาะกับคุณ นี่คือที่ที่คุณจะหาเจอ

  1. จ้างนักพัฒนาเว็บไซต์มืออาชีพในสิงคโปร์

ข้อดีของการใช้ตัวแทนนักพัฒนาเว็บไซต์ที่มีทีมดีไซน์หลายๆ คน และนักพัฒนาที่สามารถทำงานให้กับคุณได้ และสามารถปรับขนาดได้มากที่สุดเมื่อมีผู้เข้าชมมาก อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคือราคาที่อาจจะสูงขึ้นและระดับการสนับสนุนที่มอบให้กับลูกค้าจะเป็นแบบไดนามิก

  1. ติดต่อฟรีแลนซ์ที่คุณรู้จักในสิงคโปร์

ข้อดีของการมีฟรีแลนซ์ในพื้นที่ของคุณจะทำให้ง่ายในการติดต่อ เช่น เรื่องของภาษา วัฒนาธรรมและความคาดหวัง อีกทั้ง ยังมีการคอยช่วยเหลือแบบส่วนตัวได้อีกด้วย ข้อเสียของฟรีแลนซ์ในพื้นที่ของคุณก็คือ บางครั้งอาจจะมีความรู้และความเชี่ยวชาญแบบจำกัด คุณอาจจะไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่คุณเรียกร้องไปและได้กลับมาให้กับเว็บไซต์ของคุณ  

   3. จ้างกิ๊กจากเว็บไซต์ต่างๆ

ข้อดีของการจ้างกิ๊กจากเว็บไซต์ เช่น Fiverr และ Upwork จะมีราคาที่ถูก ข้อเสียก็คือการสร้างเว็บไซต์โดยกิ๊กอาจจะทำให้มีการสื่อสารที่ยากลำบากเนื่องจากฟรีแลนซ์อาจจะอยู่คนละฝั่งของโลก และขาดความรับผิดชอบและชื่อเสียง

สรุป

การสร้างเว็บไซต์ในปี 2021จะมีราคาที่ไม่แพงเหมือนกับหลายๆปีก่อน ด้วยความที่มีผู้ทำเว็บไซต์และแพลตฟอร์มในการจัดการเนื้อหาจำนวนมากที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีแบบไม่หยุดยั้ง เราจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเริ่มสร้างตั้งแต่ต้น ซึ่งตรงนี้นี่เองที่จะช่วยลดราคาค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก ดังที่เราได้เห็นข้างต้น ค่าใช้จ่ายในการสร้างเว็บไซต์ต่างขึ้นอยู่กับขนาด ประเภทและคนที่คุณจ้างมาทำนั่นเอง 

Share to your friends

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Join our circle to get updates